ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ไล่เรียงประวัติของสารวัตรป้ายแดง ร.ต.อ.ชานันท์ ชัยจินดา ลูกชาย “บิ๊กแป๊ะ” ผบ.ตร.ฝีมือดี เขามีเส้นทางชีวิตอย่างไร ถึงได้พลิกผันมาเป็นตำรวจอาชีพ
นอกเสียจาก ร.ต.อ.ชานันท์ ชัยจินดา (ฮัท) จะเป็นลูกชายของบิ๊กตำรวจ เขายังเป็นลูกชายของ ดร.บุษบา ชัยจินดา เจ้าของมหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้คร่ำหวอดในวงการการศึกษา จึงไม่แปลกที่เส้นทางการศึกษาของ ด.ช.ฮัท จะได้รับการเรียนการสอนอย่างดีเยี่ยม ตามแบบฉบับของหนุ่มไฮโซโปรไฟล์ดี
- ระดับชั้นประถมศึกษาเรียนที่โรงเรียนวชิราวุธ
- ระดับชั้นมัธยมศึกษา เข้าโครงการแลกเปลี่ยนไปเรียนต่อประเทศนิวซีแลนด์
- ระดับปริญญาโท บริหารต่างประเทศ มหาวิทยาลัยบอร์นมัธ ประเทศอังกฤษ
- ระดับปริญญาตรี คณะเทคโนโลยีการจัดการ สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติ สิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เมื่อเดินทางกลับมายังประเทศไทย หลังจากเรียนจบจากต่างประเทศ ร.ต.ต.ชานันท์ ชัยจินดา เคยให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อตอนยังเป็นเด็กผมเคยมีความคิดอยากเป็นตำรวจเหมือนคุณพ่อ ผมมีความภาคภูมิใจในตัวคุณพ่ออย่างมาก แต่มีช่วงที่ความคิดเปลี่ยนตอนไปเรียนต่างประเทศด้านบริหาร ช่วงนั้นไปเรียน และใช้ชีวิตอิสระ จึงไม่ได้คิดถึงการเป็นตำรวจ จนได้กลับมาประเทศไทยอีกครั้งตอนเรียนปริญญาโทสำเร็จแล้ว คุณพ่อก็ได้ถามว่า “อยากเป็นตำรวจไหม?” ซึ่งผมก็ตอบโดยไม่ลังเลว่า “ผมอยากเป็น”
ขณะที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ เคยให้สัมภาษณ์ว่า “แม่เขาอยากให้ฮัททำงานที่มหาวิทยาลัยศรีปทุมมากกว่า แต่ผมขอให้เขาเป็นตำรวจ เพราะอยากฝึกลูกให้เป็นคนมีวินัย และผมอยากให้เขาพึ่งตัวเองได้หลังจากผมกับภรรยาไม่อยู่แล้ว ดังนั้นลูกผมจะต้องอยู่ในที่ที่ลำบากสุดในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นั่นก็คือ ตำรวจตระเวนชายแดน”
จากนั้น ร.ต.ต.ชานันท์ จึงเข้าอบรมหลักสูตรการฝึกอบรมข้าราชการตำรวจและบุคคลที่บรรจุหรือโอนเข้ามาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร รุ่น 37 ในปี 2559 และเข้ารับการฝึกอย่างหนักหลายต่อหลักสูตร ดังต่อไปนี้
เขาเผยว่าตอนฝึกอยู่ที่ค่าย ใช้ชีวิตระหว่างการฝึกเหมือนกับทุกคน ไม่มีแบ่งแยกว่าเขาเป็นลูกใคร กินเนื้อดิบ จับปลา ใช้ชีวิตติดดิน และเขายังบอกอีกว่า “ทุกวันนี้ ผมก็เป็นตำรวจธรรมดา ไม่มีสิทธิพิเศษอะไร เหมือนกับทุกคน พ่อไม่ได้ช่วยผลักดันอะไร ผมอยู่แบบนี้ ผมสบายใจกว่า”
ครั้งหนึ่ง เพื่อนร่วมหลักสูตรการฝึกของ ร.ต.อ.ฮัท ได้บอกเล่าให้ทีมข่าวฟังว่า “ในระหว่างการฝึก บ่อยครั้งที่นักเรียนทำผิด และครูฝึกจะต้องมีการลงโทษนักเรียน ซึ่งฮัทก็เป็นหนึ่งในนักเรียน แต่ครูฝึกทุกคนไม่กล้าลงโทษเขา เพราะยำเกรงในบารมีของพ่อ แต่ฮัทกลับเดินไปบอกว่า ลงโทษผมเถอะครับ ถ้าครูไม่ลงโทษผม ผมจะลาออก”
“จนวันเวลาผ่านไป คนรอบตัวของฮัท ไม่ว่าจะเป็นผู้บังคับบัญชา เพื่อนในหน่วย หรือผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ได้โฟกัสที่เขาเป็นลูกใครอีกต่อไปแล้ว เพราะเขาใช้ชีวิตธรรมดา ติดดิน เหมือนลูกชาวบ้านคนหนึ่ง จนทุกคนหลงลืมว่าเขามาจากที่ไหน”
อย่างไรก็ดี ในช่องทางโซเชียลของ สารวัตรฮัท ถูกแท็กภาพคู่กับสาวคนสนิทคนหนึ่ง ซึ่งคนใกล้ชิดระบุว่า เป็นคนรู้ใจของสารวัตรฮัท.
cr.ไทยรัฐออนไลน์